top of page

3 Leagues of Saint-Martin

Godfrey

(Godefroy)

godfrey.png

Sigil : Lion & Crown

Color Scheme : Red

Idea : League of Glory

 

                                            “ก็อดฟรีย์” หรือ “กูเดอฟรัว” ลีกที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดของแซงต์มาร์แตง ชื่อลีกตั้งตามก็อดฟรีย์แห่งบูยง อัศวินชาวแฟรงก์ผู้นำทัพครูเสดกลุ่มแรก แรกเริ่มเดิมที แซงต์มาร์แตงรับเฉพาะนักเรียนที่เป็นชนชั้นสูงเท่านั้น ก่อนที่จะมีการรับนักเรียนจากชนชั้นอื่นเข้ามาและทำให้เกิดการแยก3กรมกอง ก็อดฟรีย์ล้วนประกอบไปด้วยลูกหลานชนชั้นสูง(Noblesse) ราชวงศ์ หน่อเนื้อราชนิกูล นายทหารยศสูงที่มีเชื้อสายชนชั้นปกครอง  ขุนนางสภาปาร์เลมองต์ฐานันดรที่1ต่างก็นิยมผลักดันให้ลูกหลานเข้ามาในลีกนี้ 

 

สมาชิกลีกมักจะมีลักษณะของชนชั้นฐานันดรสูงอย่างเห็นได้ชัด การวางตัว กิริยามารยาทและความหยิ่งทระนง กระนั้นพวกเขาก็มิใช่คนหยิ่งผยองร้ายกาจเสมอไป การเป็นชนชั้นสูงซึ่งมีอำนาจปกครองทำให้พวกเขามีความเป็นผู้นำอย่างสูง เด็ดขาด ชาญฉลาด ยินยอมสละส่วนน้อยเพื่อส่วนมาก กล้าหาญและมักจะเสนอตัวยื่นมือเข้าช่วยเหลือคนที่อยู่ใต้การปกครองอยู่เสมอ มองการศึกสงครามเป็นเรื่องของเกียรติยศและศักดิ์ศรี เป็นการประกาศศักดาที่จะยิ่งหย่อนไปกว่ากันมิได้เด็ดขาด และก็อดฟรีย์มีคติว่า สงครามที่มีเกียรติคือการประจันหน้ากันโดยตรง ต่างฝ่ายต่างเปิดเผยต่อกัน ไม่ลอบกัดข้างหลัง 

 

แต่เรื่องที่ยังเป็นที่ตำหนิของก็อดฟรีย์ย์ังมีอยู่หลายข้อ ในเรื่องการใช้จ่ายที่ออกจะฟุ่มเฟือย หรูหราแต่ไม่ค่อยเกิดประโยชน์ ทำอะไรต้องรักษาภาพพจน์เอาไว้ก่อน หัวแข็งไม่ยอมรับความผิดง่ายๆจนกว่าจะจนมุม และยังคงมีแนวคิดการเหยียดชนชั้นฐานันดรต่ำกว่าอยู่ พวกเขาค่อนข้างไม่พอใจเมื่อทางสถาบันออกคำสั่งอนุญาตให้นักเรียนจากฐานันดรสามัญชนเข้ามาในก็อดฟรีย์ด้วย แต่ทั้งหมดนี้ก็เบาบางลงกว่าสมัยก่อนมากแล้ว 

Richelieu

riche.png

Sigil : Gargoyle & Cross

Color Scheme : White

Idea : League of Virtue

 

                                            “รีเชอลีเยอ” ลีกลำดับถัดมาที่ถูกตั้งชื่อตามรีเชอลีเยอ คาร์ดินัลและรัฐบุรุษคนสำคัญแห่งฝรั่งเศส สีขาวในธงตริกอลอร์นั้นหมายถึงนักบวช บุคลากรทางศาสนา(Clergy) ในยุคแรก สมาชิกของรีเชอลีเยอส่วนใหญ่มาจากตระกูลที่สร้างชื่อให้ตนเองจากการที่มีสมาชิกในตระกูลในอดีตดำรงตำแหน่งทางศาสนา อย่างบิชอปหรือคาร์ดินัล(นิกายคาธอลิค) แต่ต่อมาบุคลากรทางศาสนาเหล่านี้ถูกลดบทบาทลงจนไม่มีส่วนยุ่งเกี่ยวกับการเมืองการปกครอง แต่ตระกูลเหล่านี้ยังคงมีสมบัติเก่า ที่ดินและมีชื่อเสียง เป็นที่นับหน้าถือตาในหลากมณฑลของฝรั่งเศส ในสมัยหลัง สมาชิกของรีเชอลีเยอส่วนใหญ่มักเป็นชนชั้นสูงที่ไม่ได้มีอำนาจปกครองในมือมาก เป็นขุนนางฐานันดรที่2ในสภาปาร์เลมองต์ ซึ่งเป็นขุนนางที่ไม่ได้ตำแหน่งจากการสืบทอด แต่ได้ตำแหน่งผ่านการใช้เงินซื้อ หรือถูกแต่งตั้ง

 

นายร้อยภายใต้หลังคาสีขาวนี้ มีความสงบสุขุม ตั้งกำแพงสูง ช่างพินิจพิจารณา หาทางออกที่สูญเสียน้อยที่สุด มักจะใช้วิธีการป้องปราม(Deterence) อย่างการสร้างข่าวลอยตามลม หรือปั่นกระแสบางอย่างขึ้นให้เรื่องที่ว่านั้นดูเป็นจริง เพื่อให้อีกฝ่ายเกิดเฉลียวใจและไม่กล้าทำสิ่งใดออกหน้าโดยตรง รีเชอลีเยอส่วนใหญ่มักหาหนทางสงบสงครามอย่างสันติ หรือหากเป็นไปไม่ได้ ก็จะหาหนทางทำให้ได้รับชัยชนะอย่างรวดเร็วที่สุด พวกเขามักจะเป็นเสนาธิการทหาร ที่ปรึกษา แต่ก็มีนายทหารฝีมือดีจำนวนไม่น้อยจากลีกนี้มาสร้างชื่อเสียงไม่ด้อยไปกว่ากองพลอื่น 

 

มักจะพูดกันอยู่เสมอว่ารีเชอลีเยออยู่เบื้องหลังเหตุการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้นในแซงต์มาร์แตง แต่ไม่สามารถจับมือใครดมได้เลย พวกเขาเข้ากันได้กับทั้งก็อดฟรีย์และโจนออฟอาร์ค แต่ไม่สามารถระบุได้เช่นกันว่าพวกเขาเอนเข้าหาฝ่ายใด หรืออาจไม่ได้เข้ากับใครเลยแต่แรก

Joan of Arc
(Jeanne d’Arc)

jean.png

Sigil : Eagle & Scroll

Color : Blue 

Idea : League of Unity

 

                                            “โจนออฟอาร์ค” หรือ “ฌานดาร์ค” ลีกลำดับสุดท้ายที่ถูกก่อตั้งขึ้นมา ชื่อลีกนั้นแน่นอนว่ามาจากวีรสตรีและนักบุญหญิงแห่งฝรั่งเศสซึ่งเดิมทีเป็นเพียงหญิงชาวบ้านธรรมดา ลีกตั้งขึ้นมาได้ไม่นานหากเทียบกับก็อดฟรีย์และรีเชอลีเยอ เนื่องด้วยสภาพสังคมที่เปลี่ยนไปทำให้เกิดชนชั้นกลาง(Bourgeois)ขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งชนชั้นที่มีบทบาทในทางสังคม โจนออฟอาร์คมีสมาชิกส่วนใหญ่เป็นนักเรียนที่มาจากชนชั้นกลางที่มีเงิน(ในช่วงMiddle Middle Class - Upper Middle Class) ครอบครัวนักเรียนส่วนใหญ่ไม่มีเชื้อสายชนชั้นสูง พวกเขาตั้งตัวขึ้นมาจากการประกอบสัมมาชีพจนร่ำรวย มีส่วนน้อยที่เป็นชนชั้นสูง แต่เป็นชนชั้นสูงที่ตกอับหรือถังแตกล้มละลาย

 

ชาวโจนออฟอาร์คมักมีลักษณะเป็นคนจิตใจเปิดกว้าง รักความท้าทาย กล้าได้กล้าเสีย ฉลาดแกมโกง มีลูกล่อลูกชนมากมาย มองหาทางลัดอยู่เสมอและไม่ค่อยเลือกวิธีการ มองการสงครามเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ประกอบด้วยงบประมาณและกำไรขาดทุน พวกเขาเข้ากันได้กับคนทุกชนชั้น สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ สภาพแวดล้อมและกระแสสังคมได้รวดเร็ว แต่ด้วยความที่เป็นชนชั้นกลาง ทำให้มักจะเป็นที่ดูถูกเหยียดหยามจากสมาชิกกรมกองอื่นอยู่เสมอ และมักไม่ได้รับความร่วมมือจากลีกอื่น ทำให้พวกเขามักจะต้องพึ่งพาตนเอง และนั่นกลายเป็นข้อได้เปรียบของโจนออฟอาร์ค

 

อีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้โจนออฟอาร์คเป็นลีกที่ไม่ค่อยมีใครอยากสมาคมด้วย เพราะไม่ค่อยมีระเบียบ ถือว่ากฏระเบียบมีไว้เฉยๆไม่จำเป็นต้องเคารพบูชา ไม่ค่อยตรงต่อเวลา หน้าไม่อาย แต่งกายผิดระเบียบตั้งแต่กัปตันจนถึงลูกบ้าน อุปกรณ์การเรียนก็ไม่ค่อยจะพกมา แต่กลับเป็นที่น่าประหลาดใจว่าคนที่ทำทั้งหมดที่กล่าวมานี้กลับได้ผลการเรียนดีกว่าคนจากลีกอื่นที่ตั้งใจเรียนบางคนเสียอีก 

 

**หมายเหตุ : เป็นการStereotypeจากนักเรียนส่วนมาก ในความเป็นจริงแล้วแต่ละลีกมีความหลากหลายอยู่มากทั้งฐานันดร เชื้อชาติ ลักษณะนิสัย ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่านักเรียนสามารถเลือกสมัครเอาตามใจตนหรือความต้องการของผู้ปกครองได้**

© 2023 by INKFEST San Francisco's Tattoo Convention. Proudly created with Wix.com

bottom of page